วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ต้นกำเนิดบาร์บีคิว

คำว่า Barbecue มาจากภาษาสเปน Barbacoa แปลว่า เปลวไฟจากไม้ย่าง นักสำรวจชาวสเปนใช้คำนี้เพื่ออธิบายวิธีการของพวกอินเดียนไฮเตียนในการย่างและรมควันเนื้อสัตว์กลางแจ้ง โดยย่างบนตะแกรงไม้เหนือกองไฟ ผู้ตั้งถิ่นฐานเชื้อสายสเปนทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาเป็นคนกลุ่มแรกที่นำวิธีการบาร์บีคิวมาใช้ทำอาหารตามฟาร์มในรัฐเทกซัส นิวเม็กซิโก แอริโซนาและแคลิฟอร์เนียส่วนซอสบาร์บีคิว รสหอมทำจากมะเขือเทศกับพริกแดงพวกสเปนคิดค้นขึ้นเองและแพร่หลายจนถึงปัจจุบันนี้

หักข้อนิ้วดัง...เป๊าะ

คนบางคนอาจหักข้อนิ้วเล่นเพราะรู้สึกสนุกที่ได้ยินเสียงดังเป๊าะ เสียงนี้เกิดจากการแตกตัวของฟองอากาศในข้อนิ้วมีของเหลวหล่อลื่นอยู่เรียกว่า น้ำไขข้อ ซึ่งมีกระเปาะเหนียวแน่นหุ้มรอบ
น้ำไขข้อช่วยป้องกันปลายกระดูกนิ้วมือที่มาต่อกันไม่ให้ครูดเสียดสีกัน ภายในน้ำไขข้อนี้มีฟองอากาศขนาดเล็กซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นอยู่มากมาย ตราบใดที่ปลายกระดูดข้อนิ้วยังแนบชิดติดกัน ความดันภายในน้ำไขข้อก็จะสูงเพียงพอที่จะกันไม่ให้ฟองอากาศมารวมตัวกัน แต่พอเรากำหมัดหรือหักนิ้วเล่นปลายกระดูกข้อนิ้วจะแยกห่างจากกัน ทำให้ความดันภายในน้ำไขข้อลดลง ฟองอากาศขนาดใหญ่ และจะแตกตัวส่งเสียงลั่นดังเป๊าะให้ได้ยิน

มีกี่ประเทศในโลกที่พูดภาษาสเปน

จาก The World Factbook ซึ่งมีแฟ้มข้อมูลรายละเอียดของทุกประเทศในโลก พบว่าประชากรในประเทศต่อไปนี้พูดภาษาสเปนเป็นภาษาที่ 1 ได้แก่ อาร์เจนตินา โบลิเวีย ชิลี โคลัมเบีย คอสตาริกา คิวบา สาธารณรัฐโดมินิกัน เอลซัลวาดอร์ อิเควทอเรียลกินี กัวเตมาลา ฮอนดูรัส เม็กซิโก นิการากัว ปานามา ปารากวัย เปรู เปอร์โตริโก สเปน อุรุกวัย และเวเนซุเอลา
ภาษาสเปนยังใช้พูดกันใน อรูบา เบลีซ บราซิล ยิบรอลตาร์ เนเธอร์แลนส์แอนทิลลิส ตรินิแดดและโตเบโก หมู่เกาะเวอร์จิไอแลนส์ รวมทั้งในสหรัฐอเมริกาด้วย แม้จะไม่ใช้ภาษาหลักในดินแดนเหล่านี้
ถ้าคุณพูดภาษาสเปนได้ คุณสามารถเดินทางท่องเที่ยวและพูดคุยกับคนส่วนใหญ่ในทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้ได้